เมนู

แล้ว ย่อม ๆ กระสับกระส่าย หวั่นไหว ดิ้นรน จุกเสียด เจ็บกาย เจ็บใจ
ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า สัตว์นั้นย่อมกระสับกระส่าย
เหมือนสัตว์ที่ถูกลูกศรแทงแล้ว เพราะเหตุนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงตรัสว่า :-
เมื่อสัตว์นั้นปรารถนากามอยู่ เมื่อสัตว์มีฉันทะเกิด
แล้ว ถ้ากามเหล่านั้นเสื่อมไป สัตว์นั้นย่อมกระสับกระส่าย
เหมือนสัตว์ที่ถูกลูกศรแทงแล้ว.

[11] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
ผู้ใดย่อมเว้นขาดกามทั้งหลาย เหมือนบุคคลเว้น
ขาดหัวงูด้วยเท้า ผู้นั้นเป็นผู้มีสติ ย่อมล่วงพ้นตัณหาอัน
ชื่อว่าวิสัตติกานี้ ในโลกเสียได้.


ว่าด้วยการเว้นขาดกามด้วยเหตุ 2 ประการ



[12] คำว่า ผู้ใดย่อมเว้นขาดกามทั้งหลาย มีความว่า คำว่า
ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด ผู้ประกอบอย่างใด ผู้ตั้งไว้อย่างใด ผู้มีประการอย่างใด
ผู้ถึงฐานะใด ผู้ประกอบด้วยธรรมใด เป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร
คฤหัสถ์ บรรพชิต เทวดา หรือเป็นมนุษย์.
คำว่า กาม ในคำว่า ย่อมเว้นขาดกามทั้งหลาย โดยหัวข้อ
ได้แก่กาม 2 อย่าง คือ วัตถุกาม 1 กิเลสกาม 1.
วัตถุกามเป็นไฉน ? รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นที่
ชอบใจ ฯลฯ กามเหล่านี้เรียกว่า วัตถุกาม ฯลฯ กามเหล่านั้นเรียกว่า